เปิดรับนักลงทุนภาคการเกษตรกรรม หุ้นส่วนทางธุรกิจไร่อ้อย ขยายพื้นที่ปลูก100ไร่ปี2565/2566 / ต้องการเช่าที่ดินจำนวน5ไร่ขึ้นไป มีโทร.0615625497 ระยะ5ปีขึ้นไป ปลูกอ้อยเข้าโรงงาน

 
เปิดรับนักลงทุนภาคการเกษตรกรรม หุ้นส่วนทางธุรกิจไร่อ้อย ขยายพื้นที่ปลูก1,000ไร่ปี2565/2566
1.บอกให้ทราบคราวๆ ลงทุนไร่ละ20,000บาท 
2.พื้นที่เช่าปลูกสิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี 1,000ไร่
3.วงเงินลงทุน20ล้านบาท ให้ลงทุนขั้นต่ำ หุ้นละ5แสนบาท/คน
4.ผลตอบแทน เจ้าของเงิน 50% ผมคนดูแลและบริหาร 50%
(จากกำไรต่อปีต่อครั้ง ขายอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาล)
5.ใครอยากลองปลูกเอง ก็มาเช่าใกล้ๆกันได้
🛑💕ติดต่อเรา  https://line.me/ti/g2/-2cCjq-OA82_MHDHNX0I3iQiJ7u9sNDxAC6MKA
_________
ทริคการใช้จ่าย : เช่น เปิดบัญชีเงินฝาก ฝากเงิน 2ล้าน ถอดใช้จ่ายเฉพาะไร่อ้อย ก็จะทราบ ต้นทุนและกำไร ตอนตัดอ้อยขาย ขายพันธุ์ ขายเข้าโรงงานน้ำตาล ตั้งแต่ปลูกอ้อยไม่เคยขาดทุน คงชำนาญมั้งครับ
_________
ซึ่งผมปลูกไว้แล้ว70ไร่ พันธุ์อ้อยขอนแก่น3 และพันธุ์อ้อย108 ซึ่งเข้าใจวิธีดูแลไร่อ้อยและเรียนรู้การรับมือ ปุ๋ยเคมี ยาเคมีปรับราคาขึ้น
_________
พื้นที่เช่าปลูกอ้อย เป้าหมาย สิงห์บุรี ชัยนาท สุพรรณบุรี อ่างทอง
_________
ต้องการเช่าที่ดินปลูกอ้อย เพิ่มและขยายในปี 2565/2566
=========
ต้องการเช่าที่ดินจำนวน5ไร่ขึ้นไป มีทักแชทมาคะ ระยะ5ปีขึ้นไป ปลูกอ้อยเข้าโรงงาน
มีไฟฟ้าผ่านจะดีมากๆ ไว้สูบน้ำบาดาล  รถสิบล้อวิ่งบนถนนเข้าถึงไร่อ้อยได้
=========
**ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า3ปี/ครั้ง**  ค่าเช่า2,000บาท/ไร่/ปี
=========
โทรคุยขอข้อมูลและรายละเอียดได้ 
=========
โทร : เวลา 18.00 - 19.00 น.
ส่งไฟล์เอกสารทุกอย่าง+ข้อความได้ 24ช.ม.
=========
ข้อมูลที่อยากได้เบื้องต้น
1.ไฟฟ้ามีไหม
2.บ่อบาดาลมีไหม ขนาดกี่นิ้ว
3.ทางเข้ากว้าง พอจะเอารถสิบ10เข้าได้ไหม
4.พื้นที่รอบๆ แปลง เป็นพืชอะไรบ้าง 
5.บ้านคนมีไหม รอบๆแปลง
6.ติดถนน หรือ เข้าซอย +ถนนดิน 
7.มีรูปถ่าย หลายๆมุม  ส่งมาได้ เกิน 10ภาพ ขึ้นไป จากถนนลาดยางเข้าแปลง


สลด! หนุ่มใต้หวันตัดสินใจโดดตึกจบชีวิตตัวเอง หลังหมดตัวเพราะเหรียญ​ LUNA
ชายคนหนึ่งในเมืองไถจงถูกพบเสียชีวิตในวันอังคาร (24 พ.ค.) หลังจากตกลงมาจากอพาร์ตเมนต์ของเขาในการฆ่าตัวตายหลังจากสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลจากการล่มสลายของโทเค็น Luna


เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันอังคารในเขตพัฒนาขื้นใหม่แห่งที่ 7 ของไถจง มีรายงานว่ามีผู้อยู่อาศัยรายหนึ่งตกลงมาจากตึกอพาร์ตเมนต์สุดหรู โดย NOWnews รายงานจาก รปภ. ที่ทำงานกะดึกเผยว่าได้ยินเสียงดัง จึงทำให้เขารีบออกไปสำรวจ และพบชายบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่บนพื้น


เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นเสียชีวิตในทันที จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้เช่าอายุ 29 ปีชื่ออู๋ ซึ่งอาศัยอยู่บนชั้นที่ 13


อู๋ไม่ได้ทิ้งบันทึกการฆ่าตัวตายไว้อย่างชัดเจน และไม่มีวี่แววของการบุกรุกหรือการดิ้นรนใดๆ เจ้าหน้าที่ยังไม่รวมการเสียชีวิตจากโควิด เนื่องจากเขามีผลตรวจเป็นลบ


หลังจากตรวจสอบโทรศัพท์ของเขา อัยการพบว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้อู๋ได้บ่นกับญาติและเพื่อน ๆ ของเขาว่ามูลค่าของโทเค็น Luna ที่เขาสะสมได้ลดลง 99% ภายในเวลาเพียงสองวัน


เขาเขียนว่าสิ่งนี้ทำให้เขาต้องเสียเงินจนแทบหมดตัวและทำให้เขาหดหู่ จากการแลกเปลี่ยนข้อความครั้งหนึ่ง เขาลงทุนเงินราว ๆ 60 ล้านบาทในโทเค็น Luna แต่หลังจากที่มูลค่าของมันร่วงลงอย่างรุนแรง เงินของเขาเหลือเพียง 3 หมื่นบาทเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม ตำรวจเสริมว่า ข้อสรุปด้านการเงินของนายอู๋และสาเหตุการฆ่าตัวตายนั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน


ทั้งเหรียญ​ UST และโทเค็น Luna เกิดการล่มสสลายลง โดยเฉพาะเหรียญ Luna ที่มีราคาร่วงลงมาถึง 100% ซึ่งมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก


ทางเราขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วย

ข่าวที่ 2 เป็นอุทาหอนพระจันทร์ไม่เต็มดวง

“90% ของเงินเก็บ ลงในคริปโต และประมาณ 90% ในจำนวนนี้ ถือเหรียญ LUNA และสิ่งที่ถืออยู่ ก็กลายเป็นศูนย์”


คือคำบอกเล่าจากคุณอ๊อฟ นักลงทุนในชุมชน Terra แพลตฟอร์ม De-Fi ที่กำลังเป็นประเด็นในตอนนี้


——————————————–

ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. จนถึงตอนที่กำลังเขียนบทความนี้ เหรียญ LUNA และเหรียญ UST หนึ่งใน Stablecoin ที่ใครหลายคนมองว่าเป็นเหรียญความเสี่ยงต่ำ กำลังอยู่ในจุดตกต่ำ
UST เหรียญที่มีกลไกทำงานร่วมกันกับ LUNA หลุดการตรึงมูลค่าหรือหลุด Peg ลงมาเรื่อยๆ จากที่ควรจะเป็น 1 เหรียญ เท่ากับ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 1 เหรียญ ค่าเท่ากับ 0 ดอลลาร์ (มูลค่าเหรียญตอนนี้แกว่งขึ้น-ลง แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดจากวิกฤตได้


งานนี้จึงมีคนเจ็บหนักเยอะ เพราะ LUNA ไม่ใช่เหรียญโนเนม แต่เป็นเหรียญอนาคตไกลในวงการ เป็นที่นิยม กราฟดี มีคนถือเยอะ


สำหรับคนถือ LUNA เยอะๆ ในตอนนี้ จึงให้ความรู้สึกไม่ต่างจากคนที่หมดตัวในวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 และต้มยำกุ้งเลยทีเดียว


ในบทความนี้ TODAY Bizview ได้คุยกับนักเทรด LUNA สองราย คนแรกคือคุณอ๊อฟ นักเทรดที่เข้าวงการ LUNA มาได้ร่วมปี หนึ่งในคอมมูนิตี้ Terra Thailand และนาวสาว A อดีตคนในวงการสื่อสารมวลชน ที่ผันตัวมาเป็นนักเทรดเต็มตัว


หลักๆ เป็นการพูดคุยเรื่องสภาพจิตใจ การรับมือในวันที่เงินของเราหายไปต่อหน้าต่อตา และวิธีที่จะเอาตัวเองออกมาจากวังวนความเครียด ก่อนจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกว่านี้


——————————————–

[ LUNA ครั้งหนึ่งเป็นเหรียญกราฟสวย อนาคตไกล ]


คุณอ๊อฟยังมีงานประจำ แต่ก็ลงเงินเก็บแทบทั้งหมดไว้กับคริปโต โดยเฉพาะเหรียญ LUNA ไว้แทบจะทั้งหมด


LUNA เคยวิกฤตหรือ crash มาก่อนช่วงเดือน พ.ค. ปีที่แล้วพอดี คุณอ๊อฟจึงเริ่มเข้ามาถือ LUNA หลังจากนั้นไม่นาน เพราะมูลค่าเริ่มขึ้น จนไปทำ all time high ช่วงสิ้นปีที่แล้ว


คนถือ LUNA ในตอนนั้น เรียกได้ว่า ยิ้มแก้มปริ


คุณอ๊อฟ เล่าเป็นอุทธาหรณ์ให้ฟังเรื่อง วิธีการลงทุน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนอยากเข้าไปเทรดเฉยๆ ถือไว้แล้วขายออก หรือเข้าไปฝากทำกำไรก็ได้


ซึ่งคุณอ๊อฟใช้วิธี Staking ฝากทำกำไร เป็นอัลกอริธึมหนึ่งที่ Terra เปิดให้ทำได้ ผลตอบแทนสูงระดับ 20% เลยทีเดียว


แต่ปัญหาคือ ระบบนี้มันมีเวลาล็อกเหรียญหลังการเคลื่อนไหวทางธุรกรรม 21 วัน


ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่มัน crash หรือหลุด Peg ลงมา คุณอ๊อฟก็ทำได้แค่มองเงินตัวเองหายไปเรื่อยๆ ทำอะไรไม่ได้


ส่วนนางสาว A เป็นนักเทรดฟูลไทม์หมาดๆ เพิ่งลาออกจากงานประจำ มาเทรดเต็มตัวได้ไม่นาน และเน้นที่เหรียญ Stablecoin เป็นหลัก เรียกได้ว่าออกมาปุ๊บ ก็เจอเหตุการณ์วัดใจทันที


“ช่วงนั้น รู้สึกหมดไฟในการทำงานประจำมาก self-esteem ต่ำลงเรื่อยๆ การเข้ามาในโลก De-Fi ทำให้รู้สึกว่า เราก็พอมีความสามารถด้านอื่นอยู่บ้างเหมือนกัน ทำให้ passion เร่ิมกลับมา


พอมีผลกำไรที่เท่ากับเงินเดือนทั้งปี จึงตัดสินใจลาออก ตอนนั้นคิดว่าถ้าทำไม่ได้ ก็เเค่กลับไปสมัครงานใหม่


การลาออกมาเทรดเต็มตัว สิ่งสำคัญคือต้อง ‘เตรียมใจ’ ทั้งในเเง่ดีเเละผิดหวัง มีเป้าหมายว่าจะทำจริงๆ เเล้วทุ่มไปให้สุด ผลจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน


การสู้กับใจตัวเองนี่ยากสุด บางทียากกว่าสู้กับตลาด จากนั้นคือ ‘เงินทุนสำรองใช้’ คือต้องมีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างน้อย 3-6 เดือน


ที่เลือก LUNA ของ Terra chain เพราะเป็นเหรียญพื้นฐานดี (ณ ขณะนั้น) ทีมผู้สร้างเก่งเเละเปิดเผยตัวตน เป็นเหรียญตัวท็อป มีโปรเจ็กต์หลากหลาย เเละที่สำคัญเป็น DeFi ที่มี use cases ใช้จริงในหลายประเทศ


LUNA ก็เป็นเหรียญที่ทำให้พอร์ตของเราโตถึง 400% ก็ได้มีการเเบ่งขายออกมา 25-50% ตามรอบทุกครั้งที่ราคา all time high เเละเข้าช้อนทุกครั้งที่มีการย่อของราคาเพราะคิดว่ายังไงก็จะถือยาวๆ”


[ ความผิดพลาด และบทเรียน ]


เมื่อถึงวันที่ LUNA น่าจะเข้าข่ายอวสานเต็มรูปแบบ นักเทรดก็ได้ตกตะกอนความคิดบางอย่าง รวมถึงบทเรียนที่จะนำไปยึดเหนี่ยว ในวันที่พร้อมจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง


นางสาว A – “บทเรียนสำคัญที่ได้ที่คือ ‘อย่าหลงรักเหรียญ’ อย่าอินกับเหรียญมากเกินไป พอเราคิดว่าเป็นเหรียญที่ทำให้เราได้เปลี่ยนชีวิตนะ ก็เลยใช้อารมณ์ในการลงทุนมากเกินไป ไม่ได้ cut loss หนีออกในยามที่พอจะทำได้


หรือการที่เอาบางส่วนไปล็อกฝากไว้จำนวนมาก เมื่อเจอวิกฤตก็หนีไม่ทัน ไม่คิดหาทางหนีทีไล่เพราะอินกับเหรียญ เชื่อมั่นมากเกินไป”


คุณอ๊อฟ – “ความผิดพลาดอีกอย่างของผมคือ จริงๆ เราควรจะ diversify เหรียญบ้าง ด้วยความที่เราเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป คิดว่าเราอ่านพวก white paper มาดีมากแล้ว ศึกษามาดีมากแล้ว ก็คือยังเชื่อมั่นใน LUNA อยู่


จนมาเจอ May Crash รอบนี้ ก็ค่อนข้างหนักเพราะว่าลงไป 90% กับ LUNA แล้วมันก็กลายเป็นศูนย์เลย”


[ จัดการความเครียด ด้วยการพักไปทำอย่างอื่น ]


อย่างที่ได้บอกไปแล้ว สำหรับคนที่ถือ LUNA เยอะๆ การ crash ครั้งนี้ให้อารมณ์ไม่ต่างจากวิกฤตเศรษกิจ บางรายถึงกับหมดเนื้อหมดตัว ความเครียดจึงเกิดขึ้น และอาจนำไปสู่เหตุการณ์เลวร้ายน่าเศร้าที่ไม่อยากจะจินตนาการถึง


คุณอ๊อฟเล่าว่า การลงทุนคริปโต มันมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว ในแต่ละวันยอดขึ้นสูงลงต่ำ เป็นเรื่องปกติ ดังนั้น คนที่มาเข้าวงการคริปโต ส่วนใหญ่มี mindset ที่พร้อมกับความเสี่ยงแบบนี้อยู่แล้ว


แต่รอบนี้ น่าจะหนักที่สุดเท่าที่หลายคนเคยเจอ เพราะมันมีเรื่องของการโจมตีโดยใช้ช่องโหว่ระบบ Terra เข้ามาด้วย เกิดการเทขายจนมูลค่ากลายเป็นศูนย์


ตัวคุณอ๊อฟก็มีภาวะเครียด ต้องพักจากจอ และหันไปทำอย่างอื่นเยอะๆ เพื่อจะได้นอนหลับได้ในตอนกลางคืน และยอมรับว่ากินข้าวน้อยลง เพราะมันทำใจลำบาก


“ส่วนตัวผม ยังพอทำใจได้ เพราะมีภรรยาและลูก ต้องอยู่กับครอบครัวมากๆ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นระดับหนึ่ง หลังจากนั้น ก็เข้าไปพูดคุยให้กำลังใจคนในคอมมูนิตี้ เพราะเข้าใจว่ามันหนักสำหรับทุกคน”


ส่วนนางสาว A ก็ใช้วิธีเดียวกันในการฟื้นฟูจิตใจ คือหันหน้าเข้าหาครอบครัว และพักไปทำอย่างอื่นบ้าง


“ส่วนตัวโชคดีที่มีครอบครัวเข้าใจเเละสนับสนุน (เเม่เข้าใจเรื่องบล็อกเชนด้วย 5555) เพื่อนที่คอยให้กำลังใจ เเละอีกพลังสำคัญเลยคือมาจากเพื่อนในคอมมูนิตี้ชาวคริปโตต่างๆ ที่คอยซัพพอร์ต เเละช่วยเหลือกันทั้งยามที่กำไรเเละขาดทุน


ช่วงนี้พอเข้าไปในโซเชียลมีเดียก็มีบ้างที่เจอคอมเม้นท์กระทบจิตใจ ก็จะลดการเล่นโซเชียลไปบ้าง ออกไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ เล่นเกม ฯลฯ


พอจิตใจกลับมาสงบเเล้ว ก็ต้องยอมรับความจริงเเละ ‘Move on’ วางเเผนให้รัดกุมกว่าเดิม พร้อมการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ใหม่ หาความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น ผิดจุดไหนก็อย่าไปทำซ้ำ ทำได้ดีจุดไหนก็ต่อยอดไป ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่”


[ ยังเชื่อมั่นในคริปโต, De-Fi อยู่ไหม ]


จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราต้องกลับมาตั้งคำถามว่า Stablecoin เซฟโซนสำหรับคนอยากเทรดเหรียญ มัน Stable จริงหรือ อาจสะเทือนความเชื่อของนักลงทุนหลายคน และต้องคิดใหม่หลายครั้งถ้าจะเข้ามาตลาด Stablecoin


คณอ๊อฟ บอกว่า “ส่วนตัวผมก็ยังเชื่ออยู่ แต่จากเหตุการณ์โจมตีนี้ ทำให้เราต้องถอยออกมาดูทุกอย่างใหม่ อาจจะดูเหรียญเชนอื่น”


ส่วนนาวสาว A ก็ยังคงเชื่อมั่น และมีมุมคิดที่น่าสนใจ ว่าทำไม คนถึงหมดหวัง และหันเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง


“ส่วนตัวยังเชื่อมั่นเเละจะยังอยู่ต่อเเน่นอน เพราะคิดว่านี่เเค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ต้องใช้เวลาอีกนาน ยังมีอะไรที่ต้องพิสูจน์กับสังคมอีกมาก ยอมรับว่าการเกิดวิกฤต Terra/ LUNA ก็มีส่วนทำให้ ‘คนนอกไม่กล้าเข้า คนในไม่กล้าอยู่ยาว’


การ Adoption เข้าถึงคนทั่วไปจึงยากยิ่งขึ้นไปอีก มุมมองเปลี่ยนไป ก็ขอเอาใจช่วยเเละสนับสนุนให้วงการคริปโต , De-Fi เเก้ไขจุดอ่อนเเละค่อยๆ พัฒนาการเงินในโลกยุคใหม่ต่อไป


การที่ทุกวันนี้ สภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อให้คนตัวเล็กตัวน้อยได้มีความหวังลืมตาอ้าปาก หรือเปลี่ยนฐานะได้ การเข้ามาในตลาดนี้จึงเป็นเหมือนโอกาสใหม่ แม้จะมีความเสี่ยงรอคอยอยู่เสมอ”